Common Mistakes & Cash Flow Management

SESSION 2

📋 ภาพรวม Session 2

🎯 สิ่งที่จะได้เรียนรู้ใน Session นี้

  1. เจาะลึก 7 ข้อผิดพลาดทั่วไป ในการบริหาร Cash Flow พร้อมตัวอย่างจริง
  2. กรณีศึกษา 2 บริษัท: บริษัทที่ล้มเหลว vs. บริษัทที่สำเร็จ
  3. เทคนิค Cash Flow Management ที่ใช้ได้จริง
  4. วิธีสร้าง Cash Flow Forecast แบบ Rolling 12 เดือน
  5. Working Capital Optimization สำหรับธุรกิจขนส่ง
  6. เครื่องมือวิเคราะห์ Cash Flow แบบ Interactive
ธุรกิจที่ล้มเหลวเพราะ Cash Flow
82%
⚠️ U.S. Bank Study
เวลาเฉลี่ยที่ SME รอดได้หากไม่มีรายได้
2-3 เดือน
⏱️ JP Morgan Chase Study
ธุรกิจที่มีกำไรแต่ขาดสภาพคล่อง
50%
⚠️ Intuit QuickBooks Survey
SME ที่ทำ Cash Flow Forecast
30%
⚠️ ส่วนใหญ่ไม่ทำ!

💸 ข้อผิดพลาดที่ 1: ใช้จ่ายเกินจำเป็น (Overspending)

🎭 กรณีศึกษา: บริษัท เอเชียทรานสปอร์ต จำกัด

📖 เรื่องราวของบริษัทที่เติบโตเร็วเกินไป

ปี 2020: จุดเริ่มต้น

• รายได้: 50 ล้านบาท/ปี

• รถ: 20 คัน

• กำไรสุทธิ: 4 ล้านบาท (8%)

• Cash Reserve: 3 ล้านบาท

ปี 2021: ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

• รายได้: 80 ล้านบาท (+60%!)

ซื้อรถใหม่ 15 คัน (45 ล้านบาท)

• เช่าสำนักงานใหม่ขนาดใหญ่ (600k/เดือน)

• จ้างพนักงานเพิ่ม 30 คน

• กำไรสุทธิ: 6 ล้านบาท (7.5%)

ปี 2022: จุดวิกฤต

• รายได้: 95 ล้านบาท (+19%)

⚠️ ราคาน้ำมันขึ้น 30%

• ลูกหนี้ค้างชำระ: 25 ล้านบาท (Payment 90 วัน)

Cash Reserve: 500k บาท (เหลือน้อยมาก!)

• ต้องกู้ Working Capital: 10 ล้านบาท (ดอกเบี้ย 12%)

เดือน มี.ค. 2023: วิกฤตสภาพคล่อง

• 🚫 ไม่สามารถจ่ายเงินเดือนได้

• 🚫 ไม่มีเงินซื้อน้ำมัน

• 🚫 ผู้ค้ำประกันถอนตัว

ผลลัพธ์: ปิดกิจการ

⚠️ สาเหตุหลักที่ทำให้ล้มเหลว

  1. ซื้อรถมากเกินไป มากเร็ว - ลงทุน 45M ในครั้งเดียว โดยไม่มี Cash Reserve รองรับ
  2. Fixed Cost เพิ่มขึ้นมากเกินไป - สำนักงานใหม่ + พนักงานใหม่ = +1.5M/เดือน
  3. ไม่มี Cash Flow Forecast - ไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีปัญหาสภาพคล่อง
  4. ไม่มีแผน B - เมื่อราคาน้ำมันพุ่ง + ลูกหนี้จ่ายช้า = วิกฤต
  5. Working Capital Management ไม่ดี - ปล่อยให้ลูกหนี้ค้างนาน ไม่มีกลไกติดตาม

📊 การวิเคราะห์ Cash Flow (ปี 2022)

รายการ Q1 (ล้านบาท) Q2 (ล้านบาท) Q3 (ล้านบาท) Q4 (ล้านบาท)
Cash In (รายได้จริง) 18 20 22 25
Fixed Costs -12 -12 -12 -12
Variable Costs (เชื้อเพลิง+) -7 -9 -10 -11
ผ่อนชำระรถ -3 -3 -3 -3
ดอกเบี้ยเงินกู้ -0.5 -0.8 -1 -1.2
Net Cash Flow -4.5 -4.8 -4 -2.2
Cumulative Cash -4.5 -9.3 -13.3 -15.5

สังเกต: Cash Flow ติดลบทุกไตรมาส! ขาดทุนสะสม 15.5 ล้านบาท ใน 1 ปี

✅ วิธีแก้ไขและป้องกัน

📋 Checklist ก่อนการขยายธุรกิจ

  1. มี Cash Reserve อย่างน้อย 6 เดือน
    • คำนวณ: Fixed Cost × 6 เดือน + Variable Cost Buffer
    • สำหรับธุรกิจ 100M = ต้องมี 15-20M สำรอง
  2. ขยายแบบค่อยเป็นค่อยไป (Incremental Growth)
    • ซื้อรถทีละ 3-5 คัน ไม่ใช่ 15 คันในครั้งเดียว
    • Test & Learn: ดูผลลัพธ์ก่อนขยายต่อ
  3. ใช้ Lease แทน Purchase ในช่วงขยายตัว
    • Operating Lease: จ่ายเป็นรายเดือน ไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่
    • Financial Lease: มี Option ซื้อในภายหลัง
  4. ทำ Sensitivity Analysis
    • ถ้าราคาน้ำมันขึ้น 20% → มีเงินพอไหม?
    • ถ้ารายได้ลดลง 15% → รอดไหม?
    • ถ้าลูกหนี้จ่ายช้า 120 วัน แทน 60 วัน → จะเป็นอย่างไร?
  5. ตั้ง KPI สำหรับการขยายตัว
    • Utilization Rate > 80% (รถวิ่งงานอย่างน้อย 80% ของเวลา)
    • Operating Cash Flow Margin > 10%
    • Debt-to-Equity Ratio < 2.0

📊 ข้อผิดพลาดที่ 2: ไม่มี Cash Flow Budget

🎯 ทำไมต้องมี Cash Flow Budget?

🚫 ไม่มี Cash Flow Budget
✅ มี Cash Flow Budget
ไม่รู้ว่าเดือนหน้าจะมีเงินเท่าไหร่
รู้ล่วงหน้า 6-12 เดือนว่าจะมีเงินเท่าไหร่
เงินหมดกะทันหัน ต้องกู้ฉุกเฉิน
เตรียมเงินล่วงหน้า หรือขอสินเชื่อตั้งแต่เนิ่นๆ
พลาดโอกาสลงทุนดีๆ เพราะไม่มีเงิน
วางแผนลงทุนได้ เมื่อรู้ว่าช่วงไหนมีเงินเหลือ
ตัดสินใจแบบวันต่อวัน
ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ มีข้อมูลรองรับ
ไม่สามารถเจรจากับ Supplier ได้
เจรจาเงื่อนไขได้ เพราะรู้ Cash Position

📅 องค์ประกอบของ Cash Flow Budget

🔢 3 ส่วนหลักของ Cash Flow Statement

  1. Operating Activities (กิจกรรมดำเนินงาน)
    • Cash In: เงินจากลูกค้าจริงๆ (ไม่ใช่รายได้ทางบัญชี)
    • Cash Out: ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปจริง (เชื้อเพลิง, เงินเดือน, ซ่อมบำรุง)
  2. Investing Activities (กิจกรรมลงทุน)
    • ซื้อรถใหม่, อุปกรณ์, ระบบ IT
    • ขายทรัพย์สิน
  3. Financing Activities (กิจกรรมจัดหาเงินทุน)
    • กู้เงิน / ใส่เงินทุนเพิ่ม
    • จ่ายคืนเงินกู้ / จ่ายเงินปันผล

🧮 เครื่องคำนวณ: Cash Flow Forecast (6 เดือน)

💡 วางแผนกระแสเงินสด 6 เดือนข้างหน้า

ใส่ข้อมูลโดยประมาณเพื่อดูภาพรวมกระแสเงินสด และวางแผนการบริหารเงิน

💰 Cash Inflow (เงินเข้า)

💸 Cash Outflow (เงินออก)

🏦 สถานะเริ่มต้น

🤔 ข้อผิดพลาดที่ 3: สับสนกำไรทางบัญชี vs. Cash Flow

📖 กรณีศึกษา: "มีกำไร แต่ไม่มีเงิน"

บริษัท พรอสเพอริตี้ ทรานสปอร์ต จำกัด

สถานการณ์: เดือนมกราคม 2024

📔 งบกำไรขาดทุน (Income Statement - Accrual Basis)

รายได้จากการให้บริการ 10,000,000
หัก: ต้นทุนขาย (6,500,000)
- เชื้อเพลิง (3,500,000)
- เงินเดือนคนขับ (1,000,000)
- ซ่อมบำรุง (300,000)
- ค่าเสื่อมราคา (700,000)
- อื่นๆ (1,000,000)
กำไรขั้นต้น 3,500,000
หัก: ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (2,000,000)
หัก: ดอกเบี้ยจ่าย (200,000)
กำไรสุทธิ 1,300,000

✅ กำไรสุทธิ: 1.3 ล้านบาท (13% ของรายได้) - ดูดีมาก!

💰 งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement - Cash Basis)

กิจกรรมดำเนินงาน (Operating Activities)
รับเงินจากลูกค้า 5,500,000
(รายได้ 10M แต่ได้เงินแค่ 5.5M เพราะลูกค้าจ่าย 60 วัน)
จ่ายเชื้อเพลิง (3,500,000)
จ่ายเงินเดือน (2,200,000)
(รวมคนขับ + Admin)
จ่ายค่าซ่อมบำรุง (400,000)
จ่ายค่าเช่า+สำนักงาน (250,000)
จ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ (800,000)
Cash Flow from Operations (1,650,000)
กิจกรรมลงทุน (Investing Activities)
ซื้อรถใหม่ (ดาวน์) (500,000)
Cash Flow from Investing (500,000)
กิจกรรมจัดหาเงินทุน (Financing Activities)
ผ่อนชำระรถ (800,000)
จ่ายดอกเบี้ย (200,000)
Cash Flow from Financing (1,000,000)
⚠️ Net Cash Flow (3,150,000)

🚨 ปัญหา: มีกำไร 1.3M แต่เงินสดลดลง 3.15M!

สาเหตุ:

  1. Accounts Receivable เพิ่มขึ้น: รายได้ 10M แต่ได้เงินแค่ 5.5M → ขาดเงิน 4.5M
  2. Depreciation ไม่ใช่ Cash: ค่าเสื่อม 700k ไม่ได้จ่ายเงินจริง → กำไรทางบัญชีต่ำลง
  3. ซื้อรถ + ผ่อนรถ: ต้องจ่ายเงินจริง 1.3M แต่ไม่ลดกำไรทางบัญชีหมด (มีแค่ depreciation)

📊 สูตรการแปลง Accounting Profit → Cash Flow

Operating Cash Flow = Net Profit + Depreciation (เพิ่มคืน เพราะไม่ใช่ cash จริง) - Increase in Accounts Receivable (ลูกหนี้เพิ่ม = เงินเข้าช้า) + Increase in Accounts Payable (เจ้าหนี้เพิ่ม = จ่ายช้าลง) - Increase in Inventory (สินค้าคงเหลือเพิ่ม) - Capital Expenditure (ซื้อทรัพย์สิน) - Debt Repayment (จ่ายหนี้)

ตัวอย่างการคำนวณ:

OCF = 1,300,000 + 700,000 (depreciation) - 4,500,000 (AR เพิ่ม เพราะลูกหนี้ยังไม่จ่าย) - 500,000 (ซื้อรถ) - 1,000,000 (ผ่อนรถ + ดอกเบี้ย) = -3,150,000 บาท

✅ วิธีแก้ไข: ติดตาม Cash Flow ไม่ใช่แค่ Profit

🎯 Best Practices

  1. ทำทั้ง Income Statement และ Cash Flow Statement
    • ดู Profit เพื่อวัดประสิทธิภาพธุรกิจ
    • ดู Cash Flow เพื่อวัดสภาพคล่อง
  2. Monitor Working Capital Cycle
    • DSO (Days Sales Outstanding): จำนวนวันเฉลี่ยที่เก็บเงินจากลูกหนี้
    • DPO (Days Payable Outstanding): จำนวนวันเฉลี่ยที่จ่ายเจ้าหนี้
    • Cash Conversion Cycle = DSO - DPO
  3. เก็บ Cash Reserve
    • ขั้นต่ำ: 2-3 เดือนของ Operating Expenses
    • แนะนำ: 4-6 เดือน สำหรับธุรกิจที่มี Cash Flow ผันผวน
  4. ใช้ Cash-Based Metrics
    • Operating Cash Flow Margin = OCF / Revenue
    • Free Cash Flow = OCF - CapEx
    • Cash Flow ROI

🧮 เครื่องคำนวณ: Working Capital Analysis

💡 วิเคราะห์ Working Capital & Cash Conversion Cycle

เครื่องมือนี้จะช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพการบริหารเงินทุนหมุนเวียนของคุณ

📊 ข้อมูลสินทรัพย์หมุนเวียน

📊 ข้อมูลหนี้สินหมุนเวียน

📈 ข้อมูลการดำเนินงาน (ต่อปี)

⚠️ ข้อผิดพลาดที่ 4-7: สรุปและแนวทางแก้ไข

4️⃣ ขาดการบริหารจัดการ Working Capital ที่ดี

🚨 ปัญหาที่พบ

  • ลูกหนี้ค้างชำระนาน 90-120 วัน
  • เงินสดไม่เพียงพอจ่ายค่าใช้จ่ายประจำ
  • ต้องกู้ Working Capital Loan ดอกเบี้ยสูง
  • ไม่สามารถรับงานใหม่เพราะไม่มีเงินซื้อน้ำมัน

✅ วิธีแก้ไข

  • ลด DSO (Days Sales Outstanding)
    • เสนอส่วนลด 2-3% ถ้าจ่ายภายใน 15 วัน
    • ส่งใบแจ้งหนี้ทันที ไม่ต้องรอสิ้นเดือน
    • ติดตามลูกหนี้อย่างเข้มงวด
  • Factoring
    • ขายลูกหนี้ให้บริษัทแฟคตอริ่ง
    • ได้เงินทันที 80-90% ของมูลค่าลูกหนี้
    • เสียค่าธรรมเนียม 1-3%
  • เจรจา Payment Terms
    • Milestone Payment (จ่ายเป็นงวด)
    • Letter of Credit (L/C)
    • Bank Guarantee

💡 กรณีศึกษา: ใช้ Factoring แก้ปัญหา Cash Flow

บริษัท เอบีซี จำกัด มีลูกหนี้ค้าง 20 ล้านบาท (90 วัน)

  • ขายลูกหนี้ให้บริษัทแฟคตอริ่ง
  • ได้เงินทันที 18 ล้านบาท (90%)
  • เสียค่าธรรมเนียม 400k (2%)
  • ผลลัพธ์: สามารถจ่ายเงินเดือน ซื้อน้ำมัน และรับงานใหม่ได้ทันที

5️⃣ ไม่ให้ความสำคัญกับการมีนักบัญชีที่ดี

⚠️ ผลกระทบจากการไม่มีนักบัญชีที่ดี

  • งบการเงินไม่ถูกต้อง → ตัดสินใจผิดพลาด
  • ปัญหาภาษี → ค่าปรับ + ดอกเบี้ย
  • ไม่ได้ Tax Planning → จ่ายภาษีมากเกินไป
  • ไม่สามารถขอสินเชื่อได้ → ขาดข้อมูลที่ธนาคารต้องการ

✅ การลงทุนในทีมบัญชีที่ดี

3 ตัวเลือกสำหรับ SME:

  1. In-house Accountant (พนักงานประจำ)
    • ค่าใช้จ่าย: 25-40k/เดือน (รวม Social Security)
    • เหมาะกับ: รายได้ 50M+ ขึ้นไป
    • ข้อดี: ทำงานเต็มเวลา เข้าใจธุรกิจลึก
  2. Outsource Accounting Firm
    • ค่าใช้จ่าย: 15-30k/เดือน
    • เหมาะกับ: รายได้ 20-50M
    • ข้อดี: ประหยัด, มีความรู้หลากหลาย
  3. Hybrid (In-house + Outsource)
    • Bookkeeper ประจำ + Tax Advisor ภายนอก
    • เหมาะกับ: รายได้ 50-100M
    • ข้อดี: Balance ระหว่างต้นทุนและคุณภาพ

🎯 KPI ของนักบัญชีที่ดี

  • ✅ ปิดบัญชีได้ภายใน 7-10 วัน (หลังสิ้นเดือน)
  • ✅ จัดทำ Cash Flow Forecast ทุกสัปดาห์
  • ✅ ไม่มีปัญหาภาษี (ยื่นทันเวลา, ถูกต้อง)
  • ✅ ให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ได้ (ไม่ใช่แค่บันทึกบัญชี)
  • ✅ ใช้ Accounting Software ได้ดี

6️⃣ มองข้ามกฎเกณฑ์สำคัญของ Regulator

📋 Compliance Checklist สำหรับธุรกิจขนส่ง

หน่วยงาน กฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม ค่าปรับถ้าไม่ทำ
กรมขนส่งทางบก • ต่ออายุ พ.ร.บ. รถบรรทุก
• ตรวจสภาพรถประจำปี
• ใบอนุญาตขนส่ง
• ใบขับขี่พนักงาน
2,000 - 10,000 บาท/ครั้ง
กรมสรรพากร • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) - ยื่นทุกเดือน
• ภาษีเงินได้นิติบุคคล - ยื่นทุกปี
• ภงด.1 (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย)
ดอกเบี้ย 1.5%/เดือน + ปรับ
กระทรวงแรงงาน • ประกันสังคม
• กองทุนทดแทน
• ประกันสุขภาพพนักงาน
ปรับสูงสุด 20,000 บาท
กรมศุลกากร • ใบอนุญาตนำเข้า-ส่งออก (ถ้ามี)
• เอกสาร Customs Clearance
ขึ้นกับกรณี
บริษัทประกันภัย • ประกันภัยรถ (ภาคบังคับ + ภาคสมัครใจ)
• ประกันสินค้า (ถ้ามี)
ไม่ได้รับความคุ้มครอง

✅ แนวทางปฏิบัติที่ดี

  1. จ้าง Tax Advisor - ค่าใช้จ่าย 30-50k/ปี ช่วยประหยัดภาษีได้มากกว่า
  2. ใช้ Software ช่วยเตือน - ตั้งปฏิทิน Reminder สำหรับวันยื่นภาษี
  3. เก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ - ดิจิทัล + Physical Backup
  4. Review Compliance ทุก Quarter - ตรวจสอบว่ามีอะไรขาดหรือไม่

7️⃣ ไม่มีการวัดผล KPI ทางการเงิน

📊 KPI ทางการเงินที่สำคัญสำหรับธุรกิจขนส่ง

KPI สูตร เป้าหมาย ความหมาย
Gross Profit Margin (Revenue - COGS) / Revenue × 100% 20-25% วัดกำไรขั้นต้น หลังหักต้นทุนขาย
Net Profit Margin Net Profit / Revenue × 100% 5-8% วัดกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
Operating Cash Flow Margin OCF / Revenue × 100% 8-12% วัดเงินสดจากการดำเนินงาน
ROA (Return on Assets) Net Profit / Total Assets × 100% 8-12% วัดประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์
ROE (Return on Equity) Net Profit / Equity × 100% 15-20% วัดผลตอบแทนให้กับเจ้าของ
Current Ratio Current Assets / Current Liabilities 1.5-2.0 วัดความสามารถชำระหนี้ระยะสั้น
Debt-to-Equity Ratio Total Debt / Total Equity < 2.0 วัดระดับเงินกู้เทียบกับทุน
DSO (Days Sales Outstanding) (AR / Revenue) × 365 45-60 วัน จำนวนวันเฉลี่ยที่เก็บเงินจากลูกหนี้
Asset Turnover Revenue / Total Assets 1.2-1.5× วัดประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์สร้างรายได้
Utilization Rate (งานที่วิ่ง / งานทั้งหมด) × 100% 75-85% % เวลาที่รถวิ่งงานจริง

✅ วิธีติดตาม KPI อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. สร้าง Financial Dashboard
    • ใช้ Excel / Google Sheets / Power BI
    • อัปเดตทุกเดือน
    • แสดงผล YoY, MoM comparison
  2. ตั้งเป้าหมายแต่ละ KPI
    • เทียบกับอุตสาหกรรม (Industry Benchmark)
    • เทียบกับปีที่แล้ว (Year-over-Year)
  3. Review ทุก Quarter
    • ทีมผู้บริหารประชุมร่วมกัน
    • หา Root Cause ของปัญหา
    • วางแผนปรับปรุง

🌟 กรณีศึกษาความสำเร็จ: บริษัท โกลบอลลอจิสติกส์ จำกัด

📖 จากวิกฤต Cash Flow สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ปี 2020: จุดเริ่มต้น - มีปัญหา Cash Flow

• รายได้: 80 ล้านบาท/ปี

• รถ: 35 คัน

ปัญหา: ลูกหนี้ค้างเฉลี่ย 90 วัน, ไม่มี Cash Reserve

• ต้องกู้ Working Capital 8 ล้านบาท (ดอกเบี้ย 12%)

ปี 2021: เริ่มปฏิรูป Cash Flow Management

มาตรการที่ทำ:

  • ✅ จ้าง CFO มืออาชีพ
  • ✅ ทำ Cash Flow Forecast แบบ Rolling 12 เดือน
  • ✅ เสนอส่วนลด 3% สำหรับการจ่ายภายใน 15 วัน
  • ✅ ใช้ Factoring กับลูกค้าใหญ่
  • ✅ เจรจา Payment Terms กับ Supplier → เพิ่มเป็น 45 วัน

ผลลัพธ์: DSO ลดลงจาก 90 → 60 วัน

ปี 2022: การเติบโตอย่างมีระเบียบ

• รายได้: 100 ล้านบาท (+25%)

• รถเพิ่มเป็น 50 คัน (ขยายทีละ 5 คัน/Quarter)

Cash Reserve: 12 ล้านบาท

• DSO: 55 วัน

• Operating Cash Flow Margin: 10%

ปี 2023: ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

• รายได้: 120 ล้านบาท (+20%)

• รถ: 60 คัน

Cash Reserve: 18 ล้านบาท (6 เดือน)

• ปลดหนี้ Working Capital Loan ได้หมด

Net Profit Margin: 8.5% (สูงกว่าค่าเฉลี่ย)

🎯 ปัจจัยความสำเร็จ

  1. ลงทุนในทีมการเงินที่ดี - จ้าง CFO + Accountant มืออาชีพ
  2. ทำ Cash Flow Forecast อย่างสม่ำเสมอ - ทุกสัปดาห์
  3. บริหาร Working Capital อย่างเข้มงวด - ลด DSO, เพิ่ม DPO
  4. ขยายธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป - มี Cash Reserve รองรับ
  5. ใช้เครื่องมือทางการเงิน - Factoring, Early Payment Discount
  6. Monitor KPI อย่างสม่ำเสมอ - Financial Dashboard ทุกเดือน

📊 เปรียบเทียบก่อน-หลัง

Metric ปี 2020 (ก่อน) ปี 2023 (หลัง) การเปลี่ยนแปลง
รายได้ 80M 120M +50%
Cash Reserve 0.5M 18M +3,500%
DSO 90 วัน 50 วัน -44%
Working Capital Loan 8M 0M -100%
Net Profit Margin 4% 8.5% +113%
OCF Margin 3% 10% +233%

✅ สิ่งที่ต้องทำหลังจาก Session 2

🎯 การบ้าน (ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง)

  1. ทำ Cash Flow Forecast 6 เดือน
    • ใช้เครื่องคำนวณด้านบนกับข้อมูลจริง
    • Identify เดือนไหนที่จะขาด Cash
    • วางแผนแก้ไขล่วงหน้า
  2. วิเคราะห์ Working Capital
    • คำนวณ DSO, DPO, Cash Conversion Cycle
    • เทียบกับ Industry Benchmark
    • หาวิธีปรับปรุง
  3. Review 7 ข้อผิดพลาด
    • Checklist ว่าบริษัทของคุณมีข้อไหนบ้าง
    • ให้คะแนนความรุนแรง 1-10
    • วางแผนแก้ไขข้อที่คะแนนสูงที่สุดก่อน
  4. สร้าง Financial Dashboard
    • เลือก 5-7 KPI ที่สำคัญที่สุด
    • ตั้งเป้าหมายแต่ละ KPI
    • Track ทุกเดือน
  5. จัดทำแผน Working Capital Improvement
    • เสนอ Early Payment Discount
    • พิจารณาใช้ Factoring
    • เจรจา Payment Terms กับ Supplier

📚 แนะนำให้อ่านเพิ่มเติม

  • หนังสือ: "Profit First" by Mike Michalowicz - เทคนิคบริหาร Cash Flow
  • หนังสือ: "The Cash Flow Solution" by Richard S. Linzer
  • Article: "82% of Small Businesses Fail Due to Cash Flow Problems" - U.S. Bank Study
  • Tool: QuickBooks / Xero - Accounting Software with Cash Flow Forecasting

📝 สรุป Session 2

🎯 สิ่งที่เรียนรู้

  • เจาะลึก 7 ข้อผิดพลาดใน Cash Flow Management
  • กรณีศึกษา 2 บริษัท: ล้มเหลาล vs. สำเร็จ
  • วิธีสร้าง Cash Flow Forecast
  • Working Capital Analysis & Optimization
  • ความแตกต่างระหว่างกำไรและเงินสด
  • KPI ทางการเงินที่สำคัญ

🔜 Session ถัดไป

Session 3: Financing Activities

  • การจัดหาเงินทุน (Debt vs. Equity)
  • Financing for Startups
  • Financing for SMEs
  • Cost of Capital
  • Capital Structure Optimization

💡 Key Takeaway

"Cash Flow คือ Oxygen ของธุรกิจ - ต้องบริหารอย่างระมัดระวัง"

การมีกำไรไม่ได้การันตีว่าจะมีเงินสด
การบริหาร Cash Flow ที่ดี = การมี Cash Flow Forecast + Working Capital Management + Cash Reserve